Chemistry - amazing science and it creates a truly amazing things. เคมี..ศาสตร์ที่น่าทึ่ง ซึ่งมันเป็นศาสตร์ที่สร้างสรรค์สรรพสิ่งที่อเมสซิ่งซะจริงๆ In fact our whole life is one continuous chemistry. ถ้าจะว่าไปแล้วอ่ะนะ ชีวิตเราก็ถือว่าเป็นเคมีอยู่ตลอดเวลา These most stunning and amazing chemical reactions which we can see thereal magic! ปฏิกิริยาเคมีสุดทึ่งเหล่านี้ เราจะเห็นเป็นประจักษ์ได้เลยยว่า ...มันสุดยอดจริงๆ
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557
chemical
Chemistry - amazing science and it creates a truly amazing things. เคมี..ศาสตร์ที่น่าทึ่ง ซึ่งมันเป็นศาสตร์ที่สร้างสรรค์สรรพสิ่งที่อเมสซิ่งซะจริงๆ In fact our whole life is one continuous chemistry. ถ้าจะว่าไปแล้วอ่ะนะ ชีวิตเราก็ถือว่าเป็นเคมีอยู่ตลอดเวลา These most stunning and amazing chemical reactions which we can see thereal magic! ปฏิกิริยาเคมีสุดทึ่งเหล่านี้ เราจะเห็นเป็นประจักษ์ได้เลยยว่า ...มันสุดยอดจริงๆ
如何写汉字:วิธีเขียนตัวอักษรจีน
如何写汉字:วิธีเขียนตัวอักษรจีน 
วิธีการเขียนตัวอักษรจีน
ผู้ที่เริ่มศึกษาภาษาจีนใหม่ ๆ อาจจะเคยได้ยินกันจนหนาหูว่า "ภาษาจีนเขียนยาก จำยาก" อยากจะขอบอกว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด และไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งจำลำดับขีดอะไรกันให้มากมาย เพียงแค่หมั่นฝึกเขียน และเขียนตามลำดับขีดที่อาจารย์ให้คัดส่งเป็นการบ้านเป็นประจำทุกวัน ความเคยชินจากลำดับขีดจะซึมสู่ท่านเองโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ พึงจำไว้ว่า ครั้งแรกที่เริ่มฝึกเขียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนตามลำดับขีดให้ถูก ต้อง อย่าเขียนแบบว่าขอให้ใกล้เคียงเป็นพอ เพราะหากท่านเขียนลำดับขีดผิด โครงสร้างตัวอักษรที่ผิด ๆ เหล่านั้น นอกจากจะทำให้อักษรจีนของท่านไม่สวยงามแล้ว ยังอาจทำให้ความหมายของตัวอักษรคลาดเคลื่อนได้
ก่อนอื่นเรามาเริ่มรู้จักเส้นขีดของอักษรจีน (笔画 bǐ huà ปี่ฮว่า ) ว่าแต่ละเส้นมีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่เริ่มเรียน ขอย้ำน่ะค่ะว่าไม่ต้องถึงขนาดจำชื่อของแต่ละเส้นได้ แต่เขียนและลากให้ถูกเป็นพอค่ะ
笔画
เส้นขีดของอักษรจีน
笔顺 การลำดับขีดการเขียนตัวอักษรจีน
ณ ที่นี้จะข้อกล่าวถึงลำดับขีดพื้นฐานโดยทั่วไปมี 7 แบบ (ซึ่งในความเป็นจริงมีมากกว่า 7 แบบ บางตำรากล่าวถึง 13 แบบ )
1. บนลงล่าง

2. ขีดขวางแล้วค่อยขีดตั้ง

3. ตรงกลางก่อนแล้วซ้ายขวา

4.ตีกรอบนอก เขียนข้างในแล้วค่อยปิด


5. ป้ายซ้ายก่อนแล้วค่อยป้ายขวา

6.、ซ้ายก่อนแล้วค่อยขวา
7、ด้านนอกก่อนค่อยด้านใน
汉字结构 โครงสร้างอักษรจีน
โครงสร้างของตัวอักษรจีน เป็นสิ่งทีจำเป็นที่จะต้องรู้และจำ เพราะนอกจากจะทำให้เขียนตัวอักษรจีนได้ถูกต้องแล้วยังมีความสำคัญในการมี ส่วนช่วยในการเปิดพจนานุกรมอีกด้วย โครงสร้างอักษรจีน สามารถแบ่งได้ 14 รูปแบบ ดังนี้
1. โครงสร้างซ้ายขวา เช่น 挣、伟、休、妲
2. โครงสร้างบนล่าง เช่น 志、苗、字、胃
3. โครงสร้างซ้ายกลางขวา เช่น 彬、湖、棚、椭
4. โครงสร้างบนกลางล่าง เช่น 奚、髻、禀、亵
5. โครงสร้างขวา คลุมครึ่งบนเช่น 句、可、司、式
6. โครงสร้างซ้าย คลุมครึ่งบน เช่น 庙、病、房、尼
7. โครงสร้าง ซ้าย คลุมครึ่งล่าง เช่น 建、连、毯、尴
8. โครงสร้าง ขวา คลุมครึ่งล่าง เช่น 斗
9. โครงสร้างครอบบน เช่น 同、问、闹、周
10.โครงสร้างครอบล่าง เช่น 击、凶、函、画
11. โครงสร้างครอบข้างซ้าย เช่น 区、巨、匝、匣
12. โครงสร้างกรอบครอบ เช่น 囚、团、因、囹
13. โครงสร้างเดี่ยว เช่น 丈、甲、且、我
14. โครงสร้างพิเศษ เช่น 坐、爽、夹、噩
ทั้งนี้ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น การฝึกเขียน คัดศัพท์ภาษาจีนจะทำให้สามารถจำขั้นตอนการเขียนได้โดยอัตโนมัติ เพียงแต่ครั้งแรกของการเริ่มคัดตัวอักษรจีน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดให้ถูกต้องตามหลักภาษาจีน ขอบอกค่ะว่าไม่ยากอย่างที่คิด
http://www.confucianism.com.cn
ผู้ที่เริ่มศึกษาภาษาจีนใหม่ ๆ อาจจะเคยได้ยินกันจนหนาหูว่า "ภาษาจีนเขียนยาก จำยาก" อยากจะขอบอกว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด และไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งจำลำดับขีดอะไรกันให้มากมาย เพียงแค่หมั่นฝึกเขียน และเขียนตามลำดับขีดที่อาจารย์ให้คัดส่งเป็นการบ้านเป็นประจำทุกวัน ความเคยชินจากลำดับขีดจะซึมสู่ท่านเองโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ พึงจำไว้ว่า ครั้งแรกที่เริ่มฝึกเขียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนตามลำดับขีดให้ถูก ต้อง อย่าเขียนแบบว่าขอให้ใกล้เคียงเป็นพอ เพราะหากท่านเขียนลำดับขีดผิด โครงสร้างตัวอักษรที่ผิด ๆ เหล่านั้น นอกจากจะทำให้อักษรจีนของท่านไม่สวยงามแล้ว ยังอาจทำให้ความหมายของตัวอักษรคลาดเคลื่อนได้
ก่อนอื่นเรามาเริ่มรู้จักเส้นขีดของอักษรจีน (笔画 bǐ huà ปี่ฮว่า ) ว่าแต่ละเส้นมีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่เริ่มเรียน ขอย้ำน่ะค่ะว่าไม่ต้องถึงขนาดจำชื่อของแต่ละเส้นได้ แต่เขียนและลากให้ถูกเป็นพอค่ะ
笔画
เส้นขีดของอักษรจีน
笔画
เส้นขีด
|
名 称
|
例 字
|
笔画
เส้นขีด
|
名 称
|
例 字
ตัวอย่างอักษร
|
|
丶
|
点
|
广
|
乛
|
横 钩
|
写
|
|
一
|
横
|
王
|
|
横折 钩
|
月
|
|
丨
|
竖
|
巾
|
横折 弯钩
|
九
|
||
丿
|
撇
|
白
|
横撇 弯钩
|
那
|
||
捺
|
八
|
ㄋ
|
横折 折折钩
|
奶
|
||
提
|
打
|
竖折 折钩
|
与
|
|||
ㄑ
|
撇 点
|
巡
|
竖 弯
|
四
|
||
し
|
竖 提
|
农
|
横折 弯
|
沿
|
||
横折 提
|
论
|
┐
|
横 折
|
口
|
||
亅
|
弯 钩
|
承
|
∟
|
竖 折
|
山
|
|
亅
|
竖 钩
|
小
|
ㄥ
|
撇 折
|
云
|
|
乚
|
竖弯 钩
|
屯
|
横 撇
|
水
|
||
斜 钩
|
浅
|
横折 折撇
|
建
|
|||
卧 钩
|
心
|
竖折 撇
|
专
|
笔顺 การลำดับขีดการเขียนตัวอักษรจีน
ณ ที่นี้จะข้อกล่าวถึงลำดับขีดพื้นฐานโดยทั่วไปมี 7 แบบ (ซึ่งในความเป็นจริงมีมากกว่า 7 แบบ บางตำรากล่าวถึง 13 แบบ )
1. บนลงล่าง
2. ขีดขวางแล้วค่อยขีดตั้ง
3. ตรงกลางก่อนแล้วซ้ายขวา
4.ตีกรอบนอก เขียนข้างในแล้วค่อยปิด
5. ป้ายซ้ายก่อนแล้วค่อยป้ายขวา
6.、ซ้ายก่อนแล้วค่อยขวา
7、ด้านนอกก่อนค่อยด้านใน
汉字结构 โครงสร้างอักษรจีน
โครงสร้างของตัวอักษรจีน เป็นสิ่งทีจำเป็นที่จะต้องรู้และจำ เพราะนอกจากจะทำให้เขียนตัวอักษรจีนได้ถูกต้องแล้วยังมีความสำคัญในการมี ส่วนช่วยในการเปิดพจนานุกรมอีกด้วย โครงสร้างอักษรจีน สามารถแบ่งได้ 14 รูปแบบ ดังนี้
1. โครงสร้างซ้ายขวา เช่น 挣、伟、休、妲
2. โครงสร้างบนล่าง เช่น 志、苗、字、胃
3. โครงสร้างซ้ายกลางขวา เช่น 彬、湖、棚、椭
4. โครงสร้างบนกลางล่าง เช่น 奚、髻、禀、亵
5. โครงสร้างขวา คลุมครึ่งบนเช่น 句、可、司、式
6. โครงสร้างซ้าย คลุมครึ่งบน เช่น 庙、病、房、尼
7. โครงสร้าง ซ้าย คลุมครึ่งล่าง เช่น 建、连、毯、尴
8. โครงสร้าง ขวา คลุมครึ่งล่าง เช่น 斗
9. โครงสร้างครอบบน เช่น 同、问、闹、周
10.โครงสร้างครอบล่าง เช่น 击、凶、函、画
11. โครงสร้างครอบข้างซ้าย เช่น 区、巨、匝、匣
12. โครงสร้างกรอบครอบ เช่น 囚、团、因、囹
13. โครงสร้างเดี่ยว เช่น 丈、甲、且、我
14. โครงสร้างพิเศษ เช่น 坐、爽、夹、噩
ทั้งนี้ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น การฝึกเขียน คัดศัพท์ภาษาจีนจะทำให้สามารถจำขั้นตอนการเขียนได้โดยอัตโนมัติ เพียงแต่ครั้งแรกของการเริ่มคัดตัวอักษรจีน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดให้ถูกต้องตามหลักภาษาจีน ขอบอกค่ะว่าไม่ยากอย่างที่คิด
http://www.confucianism.com.cn
汉语拼音:PINYIN
汉语拼音:PINYIN 
声母 shēngmŭ เซิงหมู่ พยัญชนะ
1. พยัญชนะต้นของภาษาจีนมี 21 เสียง
b (ปัว / ปอ) p (พัว / พอ) m (มัว / มอ) f (ฟัว / ฟอ)
d (เตอ) t (เธอ) n (เนอ) l (เลอ)
g (เกอ) k (เคอ) h (เฮอ) j (จี)
q (ชี) x (ซี) z (จือ) c (ชือ)
s (ซือ) zh (จรือ) ch (ชรือ) sh (ซรือ) r (ยรือ)
หมายเหตุ zh ch sh r ให้ออกเสียงโดยยกปลายลิ้นขึ้นแตะบริเวณเพดานปาก ในการสะกดเสียงอ่านแบบไทยนั้น ผู้เขียนได้เลือกอักษร “ ร ” เป็นตัวแทนการออกเสียงยกลิ้นขึ้น มิได้หมายถึงให้สะกดเป็น จะ-รือ ชะ-รือ ซะ – รือ ยะ-รือ แต่ให้ออกเสียงควบกัน
2. พยัญชนะต้นกึ่งสระมี 2 เสียง คือ
y (i อี) และ w (u อู)
韵母 yùnmǔ อวิ้นหมู่ สระ แบ่งออกเป็นสระเดี่ยว และสระผสม ดังนี้
1. 单韵母 dān yùnmǔ ตาน อวิ้นหมู่ สระเดี่ยว มี 6 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี)
** สระ ü จะออกเสียงสระ u (อู) ควบกับ สระ i (อี) ( u + i ) โดยจุดสองจุดที่อยู่ด้านบน u เท่ากับสระ i นั่นเอง
หมายเหตุ บางตำรากล่าวถึงสระเดี่ยวไว้ว่ามี 8 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี) ê (เอ) er (เออร)
2. 双韵母 shāung yùnmǔ ซวง อวิ้นหมู่ สระผสม สังเกตได้ว่าการออกเสียงสระผสม จะเกิดจากเทคนิคการลากเสียงของสระแต่ละเสียงมาชนกัน
แบบฝึกหัด 2.1
a (อา) + o (โอ) = ao (อาว) i (อี) + u (อู) = iu (อิว) e (เออ) + i (อี) = ei (เอย)
a (อา) + i (อี) = ai (ไอย) u (อู) + i (อี) = ui (อุย) o (โอ) + u (อู) = ou(โอว)
u (อู) + o (โอ)= uo (อัว) u (อู) + a (อา)= ua (อวา) เป็นต้น
หากสระ e (เออ) ตามท้ายสระตัวอื่นจะออกเสียงเป็นสระ ê (เอ)
แบบฝึกหัด 2.2
i (อี) + e (เอ) = ie (เอีย) ü (อวี) + e (เอ) = üe (เอวีย)
กรณีที่มีเสียงพยัญชนะท้าย คือ - n หรือ - ng ตามหลังเสียงสระ เสียง - n จะเทียบได้กับเสียง “แม่กน” ในภาษาไทย และ - ng จะเทียบได้กับเสียง “แม่กง” ในภาษาไทย ส่วนเสียง - r ด้านท้ายนั้นกำกับไว้เพื่อแสดงว่าเป็นเสียงที่จำเป็นต้องม้วนหดลิ้นให้ยก ขึ้นไปแตะบริเวณเพดานแข็๋ง
แบบฝึกหัด 2.3
a (อา) --- an (อาน) a (อา) --- ang (อาง) o (โอ) --- ong (อง) e (เออ) --- en (เอิน)
e (เออ) --- eng (เอิง) ia (เอียะ) --- ian (เอียน) i (อี) --- in (อิน) ia (เอียะ) --- iang (เอียง)
i (อี) --- ing (อิง) i (อี) --- iong ( อี+อง) ua (อวา) --- uan (อวาน)
ua (อวา) --- uang (อวาง) u (อู) --- un (อูน) ü (อวี) --- ün (อวิน)
üa (เอวียะ) --- üan (เอวียน) e (เออ) --- er (เออ-ร)
ในบรรดาสระเดี่ยว 6 เสียง จะมีอยู่ 2 เสียง คือ เสียงสระ i (อี) และ u (อู) ที่ไม่สามารถใช้เป็นสระขึ้นต้นพยางค์ตามลำพังได้ จึงจำเป็นที่จะต้องมีพยัญชนะกึ่งสระ y (อี) และ w (อู) มาช่วยกำกับแทนที่สระ i (อี) และ u (อู)
แบบฝึกหัด 2.4
i (อี) --- yi (อี) ia (เอียะ) --- ya(เอียะ) iao (เอียว) --- yao (เอียว)
ie (อีเย) --- ye (เอีย) iou (อิว)--- you (อิว) ian (เอียน) --- yan (เอียน)
in (อิน) --- yin (อิน) iang (เอียง) --- yang(เอียง) ing (อิง) --- ying(อิง)
iong ( อี+อง) --- yong( อี+อง) u (อู) --- wu (อู) ua (อวา) --- wa (อวา)
uo (อัว) --- wo(อัว) uai (อวาย) --- wai (อวาย) uei (เอวย) -- wei (เอวย)
uan (อวาน) --- wan(อวาน) uen (อู+เอิน) -- wen (อู+เอิน) uang (อวาง) -- wang (อวาง)
ueng (อู+เอิง) -- weng (อู+เอิง)
韵母分组 การแบ่งกลุ่มของสระผสม
汉语拼音 hànyŭ pīnyīn ฮั่นอวี่ พินอิน
สัทอักษรภาษาจีน (พินอิน )
เนื่องจากตัวอักษรจีนเป็นตัวอักษรที่มาจากภาพวาดและวิวัฒนาการเรื่อยมาจน
เป็นตัวอักษรจีนในปัจจุบัน โดยแต่ละขีด
แต่ละเส้นของตัวอักษรจีนไม่สามารถนำมาผสมกันแล้วออกเสียงเป็นภาษาจีนได้
ด้วยเหตุนี้เองเราจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ระบบการออกเสียงสัทอักษรภาษา
จีน (พินอิน拼音) ซึ่งได้ดัดแปลงมาจาก International Phonetic Alphabets
เพื่อช่วยในการอ่านออกเสียงตัวอักษรจีนนั้น ๆ หากเทียบกับภาษาไทยแล้ว
ระบบสัทอักษรจีนหรือพินอินนั้นมิได้ยากอย่างที่คิดเลย ภาษาไทยเรามีพยัญชนะ
สระ วรรณยุกต์ สัทอักษรจีนก็มีเช่นกัน声母 shēngmŭ เซิงหมู่ พยัญชนะ
1. พยัญชนะต้นของภาษาจีนมี 21 เสียง
b (ปัว / ปอ) p (พัว / พอ) m (มัว / มอ) f (ฟัว / ฟอ)
d (เตอ) t (เธอ) n (เนอ) l (เลอ)
g (เกอ) k (เคอ) h (เฮอ) j (จี)
q (ชี) x (ซี) z (จือ) c (ชือ)
s (ซือ) zh (จรือ) ch (ชรือ) sh (ซรือ) r (ยรือ)
หมายเหตุ zh ch sh r ให้ออกเสียงโดยยกปลายลิ้นขึ้นแตะบริเวณเพดานปาก ในการสะกดเสียงอ่านแบบไทยนั้น ผู้เขียนได้เลือกอักษร “ ร ” เป็นตัวแทนการออกเสียงยกลิ้นขึ้น มิได้หมายถึงให้สะกดเป็น จะ-รือ ชะ-รือ ซะ – รือ ยะ-รือ แต่ให้ออกเสียงควบกัน
2. พยัญชนะต้นกึ่งสระมี 2 เสียง คือ
y (i อี) และ w (u อู)
韵母 yùnmǔ อวิ้นหมู่ สระ แบ่งออกเป็นสระเดี่ยว และสระผสม ดังนี้
1. 单韵母 dān yùnmǔ ตาน อวิ้นหมู่ สระเดี่ยว มี 6 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี)
** สระ ü จะออกเสียงสระ u (อู) ควบกับ สระ i (อี) ( u + i ) โดยจุดสองจุดที่อยู่ด้านบน u เท่ากับสระ i นั่นเอง
หมายเหตุ บางตำรากล่าวถึงสระเดี่ยวไว้ว่ามี 8 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี) ê (เอ) er (เออร)
2. 双韵母 shāung yùnmǔ ซวง อวิ้นหมู่ สระผสม สังเกตได้ว่าการออกเสียงสระผสม จะเกิดจากเทคนิคการลากเสียงของสระแต่ละเสียงมาชนกัน
แบบฝึกหัด 2.1
a (อา) + o (โอ) = ao (อาว) i (อี) + u (อู) = iu (อิว) e (เออ) + i (อี) = ei (เอย)
a (อา) + i (อี) = ai (ไอย) u (อู) + i (อี) = ui (อุย) o (โอ) + u (อู) = ou(โอว)
u (อู) + o (โอ)= uo (อัว) u (อู) + a (อา)= ua (อวา) เป็นต้น
หากสระ e (เออ) ตามท้ายสระตัวอื่นจะออกเสียงเป็นสระ ê (เอ)
แบบฝึกหัด 2.2
i (อี) + e (เอ) = ie (เอีย) ü (อวี) + e (เอ) = üe (เอวีย)
กรณีที่มีเสียงพยัญชนะท้าย คือ - n หรือ - ng ตามหลังเสียงสระ เสียง - n จะเทียบได้กับเสียง “แม่กน” ในภาษาไทย และ - ng จะเทียบได้กับเสียง “แม่กง” ในภาษาไทย ส่วนเสียง - r ด้านท้ายนั้นกำกับไว้เพื่อแสดงว่าเป็นเสียงที่จำเป็นต้องม้วนหดลิ้นให้ยก ขึ้นไปแตะบริเวณเพดานแข็๋ง
แบบฝึกหัด 2.3
a (อา) --- an (อาน) a (อา) --- ang (อาง) o (โอ) --- ong (อง) e (เออ) --- en (เอิน)
e (เออ) --- eng (เอิง) ia (เอียะ) --- ian (เอียน) i (อี) --- in (อิน) ia (เอียะ) --- iang (เอียง)
i (อี) --- ing (อิง) i (อี) --- iong ( อี+อง) ua (อวา) --- uan (อวาน)
ua (อวา) --- uang (อวาง) u (อู) --- un (อูน) ü (อวี) --- ün (อวิน)
üa (เอวียะ) --- üan (เอวียน) e (เออ) --- er (เออ-ร)
ในบรรดาสระเดี่ยว 6 เสียง จะมีอยู่ 2 เสียง คือ เสียงสระ i (อี) และ u (อู) ที่ไม่สามารถใช้เป็นสระขึ้นต้นพยางค์ตามลำพังได้ จึงจำเป็นที่จะต้องมีพยัญชนะกึ่งสระ y (อี) และ w (อู) มาช่วยกำกับแทนที่สระ i (อี) และ u (อู)
แบบฝึกหัด 2.4
i (อี) --- yi (อี) ia (เอียะ) --- ya(เอียะ) iao (เอียว) --- yao (เอียว)
ie (อีเย) --- ye (เอีย) iou (อิว)--- you (อิว) ian (เอียน) --- yan (เอียน)
in (อิน) --- yin (อิน) iang (เอียง) --- yang(เอียง) ing (อิง) --- ying(อิง)
iong ( อี+อง) --- yong( อี+อง) u (อู) --- wu (อู) ua (อวา) --- wa (อวา)
uo (อัว) --- wo(อัว) uai (อวาย) --- wai (อวาย) uei (เอวย) -- wei (เอวย)
uan (อวาน) --- wan(อวาน) uen (อู+เอิน) -- wen (อู+เอิน) uang (อวาง) -- wang (อวาง)
ueng (อู+เอิง) -- weng (อู+เอิง)
韵母分组 การแบ่งกลุ่มของสระผสม
สระผสม มีทั้งสิ้น 30 เสียง โดยแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1
|
2
|
3
|
4
|
||
a
อา
|
o
โอ
|
e
เออ
|
i
อี
|
u
อู
|
ü
อวี
|
- กลุ่มที่ 1 นำหน้าด้วยสระเสียงเดี่ยว a (อา) o (โอ) e (เออ) ได้แก่
a (อา) o (โอ) e (เออ) ê (เอ) - i (อือ)
er (เออ-ร) ai (อาย) ei (เอย) ao (อาว)
ou (โอว) an (อาน) en (เอิน) ang (อาง / อัง)
eng (เอิง) ong (อง)
*ในกรณีที่สระ i (อี)อยู่ในกลุ่ม 1 ซึ่งใช้กับเสียงพยัญชนะ z c s zh ch sh r ให้ออกเสียงเป็นสระอือ
zi (จือ) ci (ชือ) si (ซือ)
zhi (จรือ) chi (ชรือ) shi (ซรือ) ri (ยรือ)
声母
|
1
|
||||||||||||||
a
อา
|
o
โอ
|
e
เออ
|
ê
เอ
|
- i
อือ
|
er
|
ai
อาย
|
ei
เอย
|
ao
อาว
|
ou
โอว
|
an
อาน
|
en
เอิน
|
ang
อัง
|
eng
เอิง
|
ong
อง
|
|
b
โป
|
ba
ปา
|
bo
โป
|
bai
ปาย
|
bei
เปย
|
bao
ปาว
|
ban
ปาน
|
ben
เปิน
|
bang
ปัง
|
beng
เปิง
|
||||||
p
โพ
|
pa
พา
|
po
โพ
|
pai
พาย
|
pei
เพย
|
pao
พาว
|
pou
โพว
|
pan
พาน
|
pen
เพิน
|
pang
พัง
|
peng
เพิง
|
|||||
m
โม
|
ma
มา
|
mo
โม
|
me
เมอ
|
mai
มาย
|
mei
เมย
|
mao
มาว
|
mou
โมว
|
man
มาน
|
men
เมิน
|
mang
มัง
|
meng
เมิง
|
||||
f
โฟ
|
fa
ฟา
|
fo
โฟ
|
fei
เฟย
|
fou
โฟว
|
fan
ฟาน
|
fen
เฟิน
|
fang
ฟัง
|
feng
เฟิง
|
|||||||
d
เตอ
|
da
ตา
|
de
เตอ
|
dai
ตาย
|
dei
เตย
|
dao
ตาว
|
dou
โตว
|
dan
ตาน
|
den
เติน
|
dang
ตัง
|
deng
เติง
|
dong
ตง
|
||||
t
เทอ
|
ta
ทา
|
te
เทอ
|
tai
ทาย
|
tao
ทาว
|
tou
โทว
|
tan
ทาน
|
tang
ทัง
|
teng
เทิง
|
tong
ธง
|
||||||
n
เนอ
|
na
นา
|
ne
เนอ
|
nai
นาย
|
nei
เนย
|
nao
นาว
|
nou
โนว
|
nan
นาน
|
nen
เนิน
|
nang
นัง
|
neng
เนิง
|
nong
นง
|
||||
l
เลอ
|
la
ลา
|
le
เลอ
|
lai
ลาย
|
lei
เลย
|
lao
ลาว
|
lou
โลว
|
lan
ลาน
|
lang
ลัง
|
leng
เริง
|
long
ลง
|
|||||
g
เกอ
|
ga
กา
|
ge
เกอ
|
gai
กาย
|
gei
เกย
|
gao
กาว
|
gou
โกว
|
gan
กาน
|
gen
เกิน
|
gang
กัง
|
geng
เกิง
|
gong
กง
|
||||
k
เคอ
|
ka
คา
|
ke
เคอ
|
kai
คาย
|
kei
เคย
|
kao
คาว
|
kou
โคว
|
kan
คาน
|
ken
เคิน
|
kang
คัง
|
keng
เคิง
|
kong
คง
|
||||
H
เฮอ
|
ha
ฮา
|
He
เฮอ
|
hai
ฮาย
|
hei
เฮย
|
hao
ฮาว
|
hou
โฮว
|
han
ฮัน
|
hen
เฮิน
|
hang
ฮัง
|
heng
เฮิง
|
hong
ฮง
|
||||
j
จี
|
|||||||||||||||
q
ชี
|
|||||||||||||||
x
ซี
|
|||||||||||||||
z
จือ
|
za
จา
|
ze
เจอ
|
zi
จือ
|
zai
จาย
|
zei
เจย
|
zao
จาว
|
zou
โจว
|
zan
จัน
|
zen
เจิน
|
zang
จาง
|
zeng
เจิง
|
zong
จง
|
|||
c
ชือ
|
ca
ชา
|
ce
เชอ
|
ci
ชือ
|
cai
ชาย
|
cao
ชาว
|
cou
โชว
|
can
ชัน
|
cen
เชิน
|
cang
ชาง
|
ceng
เชิง
|
cong
ชง
|
||||
s
ซือ
|
sa
ซา
|
se
เซอ
|
si
ซือ
|
sai
ซาย
|
sao
ซาว
|
sou
โซว
|
san
ซัน
|
sen
เซิน
|
sang
ซาง
|
seng
เซิง
|
song
ซง
|
||||
zh
จือ
|
zha
จา
|
zhe
เจอ
|
zhi
จือ
|
zhai
จาย
|
zhei
เจย
|
zhao
จาว
|
zhou
โจว
|
zhan
จัน
|
zhen
เจิน
|
zhang
จาง
|
zheng
เจิง
|
zhong
จง
|
|||
ch
ชือ
|
cha
ชา
|
che
เชอ
|
chi
ชือ
|
chai
ชาย
|
chao
ชาว
|
chou
โชว
|
chan
ชัน
|
chen
เชิน
|
chang
ชาง
|
cheng
เชิง
|
chong
ชง
|
||||
sh
ซือ
|
sha
ซา
|
she
เซอ
|
shi
ซือ
|
shai
ซาย
|
shei
เซย
|
shao
ซาว
|
shou
โซว
|
shan
ซัน
|
shen
เซิน
|
shang
ซาง
|
sheng
เซิง
|
||||
r
|
re
เยอ
|
ri
ยือ
|
rao
ยาว
|
rou
โยว
|
ran
ยาน
|
ren
เยิน
|
rang
ยาง
|
reng
เยิง
|
rong
ยง
|
กลุ่มที่ 2 นำหน้าด้วยสระ i (อี) ได้แก่
i (อี) ia (เอียะ) iao (เอียว) ie (เอีย) iou (อิว)
ian (เอียน) in (อิน) iang (เอียง) ing (อิง) iong (อี+อง)
声母
|
2
|
|||||||||
i
อี
|
ia
เอียะ
|
iao
เอียว
|
ie
เอีย
|
iou
อิว
|
ian
เอียน
|
in
อิน
|
iang
เอียง
|
ing
อิง
|
iong
อี+อง
|
|
b
โป
|
bi
ปี
|
biao
เปียว
|
bie
เปีย
|
bian
เปียน
|
bin
ปิน
|
bing
ปิง
|
||||
p
โพ
|
pi
พี
|
piao
เพียว
|
pie
เพีย
|
pian
เพียน
|
pin
พิน
|
ping
พิง
|
||||
m
โม
|
mi
มี
|
miao
เมียว
|
mie
เมีย
|
miu
มิว
|
mian
เมียน
|
min
มิน
|
ming
มิง
|
|||
f
โฟ
|
||||||||||
d
เตอ
|
di
ตี
|
diao
เตียว
|
die
เตีย
|
diu
ติว
|
dian
เตียน
|
ding
ติง
|
||||
t
เทอ
|
ti
ที
|
tiao
เทียว
|
tie
เทีย
|
tian
เทียน
|
ting
ทิง
|
|||||
n
เนอ
|
ni
นี
|
niao
เนียว
|
nie
เนีย
|
niu
นิว
|
nian
เนียน
|
nin
นิน
|
niang
เนียง
|
ning
นิง
|
||
l
เลอ
|
li
ลี
|
lia
เลียะ
|
l iao
เลียว
|
lie
เลีย
|
liu
ลิว
|
lian
เลียน
|
lin
ลิน
|
liang
เลียง
|
ling
ลิง
|
|
g
เกอ
|
||||||||||
k
เคอ
|
||||||||||
H
เฮอ
|
||||||||||
j
จี
|
ji
จี
|
jia
เจียะ
|
jiao
เจียว
|
jie
เจีย
|
jiu
จิว
|
jian
เจียน
|
jin
จิน
|
jiang
เจียง
|
jing
จิง
|
jiong
โจวง
|
q
ชี
|
qi
ชี
|
qia
เชียะ
|
qiao
เชียว
|
qie
เชีย
|
qiu
ชิว
|
qian
เชียน
|
qin
ชิน
|
qiang
เชียง
|
qing
ชิง
|
qiong
โชวง
|
x
ซี
|
xi
ซี
|
xia
เซียะ
|
xiao
เซียว
|
xie
เซีย
|
xiu
ซิว
|
xian
เซียน
|
xin
ซิน
|
xiang
เซียง
|
xing
ซิง
|
xiong
โซวง
|
z จือ
|
||||||||||
c ชือ
|
||||||||||
s ซือ
|
||||||||||
zhจือ
|
||||||||||
chชือ
|
||||||||||
shซือ
|
||||||||||
r ยือ
|
||||||||||
yi
อี
|
ya
เอียะ
|
yao
เอียว
|
ye
เอ
|
you
อิว
|
yan
เอียน
|
yin
อิน
|
yang
เอียง
|
ying
อิง
|
yong
อี+อง
|
กลุ่มที่ 3 นำหน้าด้วยสระ u ได้แก่
u (อู) ua (อวา) uo (อัว) uai (อวาย) uei (อู+เอย)
uan (อวาน) un (อุน) uang (อวาง) ueng (อู+เอิง)
声母
|
3
|
||||||||
u
อู
|
ua
อวา
|
uo
อัว
|
uai
อวาย
|
uei
อุย
|
uan
อวาน
|
un
อุน
|
uang
อวาง
|
ueng
อู+เอิง
|
|
b
โป
|
bu
ปู
|
||||||||
p
โพ
|
pu
พู
|
||||||||
m
โม
|
mu
มู
|
||||||||
f
โฟ
|
fu
ฟู
|
||||||||
d
เตอ
|
du
ตู
|
duo
ตัว
|
dui
ตุย
|
duan
ตวาน
|
dun
ตุน
|
||||
t
เทอ
|
tu
ทู
|
tuo
ทัว
|
tui
ทุย
|
tuan
ทวาน
|
tun
ทุน
|
||||
n
เนอ
|
nu
นู
|
nuo
นัว
|
nuan
นวน
|
||||||
l
เลอ
|
lu
ลู
|
luo
ลัว
|
luan
ลวน
|
lun
ลุน
|
|||||
g
เกอ
|
gu
กู
|
gua
กวา
|
zuo
กัว
|
guai
กวาย
|
gui
กุย
|
guan
กวาน
|
gun
กุน
|
guang
กวาง
|
|
k
เคอ
|
ku
คู
|
kua
ควา
|
kuo
คัว
|
kuai
ควาย
|
kui
คุย
|
kuan
ควาน
|
kun
คุน
|
kuang
ควาง
|
|
H
เฮอ
|
hu
ฮู
|
hua
ฮวา
|
huo
ฮัว
|
huai
ฮวาย
|
hui
ฮุย
|
huan
ฮวาน
|
hun
ฮุน
|
huang
ฮวาง
|
|
j
จี
|
|||||||||
q
ชี
|
|||||||||
x
ซี
|
|||||||||
z
จือ
|
zu
จู
|
zuo
จัว
|
zui
จุย
|
zuan
จวาน
|
zun
จุน
|
||||
c
ชือ
|
cu
ชู
|
cuo
ชัว
|
cui
ชุย
|
cuan
ชวาน
|
cun
ชุน
|
||||
s
ซือ
|
su
ซู
|
suo
ซัว
|
sui
ซุย
|
suan
ซวน
|
sun
ซุน
|
||||
zh
จือ
|
zhu
จู
|
zhua
จวา
|
zhuo
จัว
|
zhuai
จวาย
|
zhui
จุย
|
zhuan
จวาน
|
zhun
จุน
|
zhuang
จวง
|
|
ch
ชือ
|
chu
ชู
|
chua
ชวา
|
chuo
ชัว
|
chuai
ชวาย
|
chui
ชุย
|
chuan
ชวาน
|
chun
ชุน
|
chuang
ชวง
|
|
sh
ซือ
|
shu
ซู
|
shua
ซวา
|
shuo
ซัว
|
shuai
ซวาย
|
Shui
ซุย
|
shuan
ซวาน
|
shun
ซุน
|
shuang
ซวง
|
|
r
ยือ
|
ru
ยู
|
rua
ยวา
|
ruo
ยัว
|
rui
ยุย
|
ruan
ยวาน
|
run
ยุน
|
|||
wu
อู
|
wa
อวา
|
wo
อัว
|
wai
อวาย
|
wei
อู+เอย / เวย
|
wan
อวาน
|
wen
อู+เอินเวิน
|
wang
อวาง
|
weng
อู+เอิง / เวิง
|
กลุ่มที่ 4 กลุ่มสุดท้ายนำหน้าด้วยสระ ü (อวี) ได้แก่
ü (อวี) üe (เอวีย) üan (เอวียน) ün (อวิน)
声母
|
4
|
|||
ü
อวี
|
üe
อวี+เอ (เอวีย)
|
üan
อวี+อัน(เอวียน)
|
ün
อวิน
|
|
b โป
|
||||
p โพ
|
||||
mโม
|
||||
f โฟ
|
||||
d เตอ
|
||||
t เทอ
|
||||
n
เนอ
|
nü
นวี
|
nüe
นวี+เอ (เนวีย)
|
||
l
เลอ
|
lü
ลวี
|
lüe
ลวี+เอ (เลวีย)
|
||
g เกอ
|
||||
k เคอ
|
||||
h เฮอ
|
||||
j
จี
|
ju
จวี
|
jue
จวี+เอ (เจวีย)
|
juan
จวี+อัน(เจวียน)
|
jun
จวิน
|
q
ชี
|
qu
ชวี
|
que
ชวี+เอ (เชวีย)
|
quan
ชวี+อัน (เชวียน)
|
qun
ชวิน
|
x
ซี
|
xu
ซวี
|
xue
ซวี+เอ(เซวีย)
|
xuan
ซวี+อัน(เซวียน)
|
xun
ซวิน
|
z จือ
|
||||
c ชือ
|
||||
s ซือ
|
||||
zh จือ
|
||||
ch ชือ
|
||||
sh ซือ
|
||||
r ยือ
|
||||
yu
อวี
|
yue
อวี+เอ(เอวีย)
|
yuan
อวี+อัน(เอวียน)
|
yun
อวิน
|
** ข้อสังเกต พยัญชนะ j (จี) q (ชี) x (ซี) y (อี) หากผสมกับสระ ü (อวี)จะละเครื่องหมายจุดจุดข้างบนเอาไว้ อย่างที่บอกไว้ข้างต้น สระ ü (อวี) มีรากฐานมาจากสระ u (อู) + i (อี)หากสังเกตการออกเสียงพยัญชนะ j (จี) q (ชี) x (ซี) y (อี) ให้ดี ๆ จะเห็นว่ามีเสียงสระ i (อี) ประกอบอยู่ด้วย ดังนั้นจึงถือว่าหากนำพยัญชนะ j (จี) q (ชี) x (ซี) y (อี) มาผสมกับสระ ü (อวี) ไม่จำเป็นต้องเติมจุดบนสระ ü
ทบทวนฟังเสียงพินอินจากเจ้าของภาษา คลิ๊กนี้เลยค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)