Chemistry - amazing science and it creates a truly amazing things. เคมี..ศาสตร์ที่น่าทึ่ง ซึ่งมันเป็นศาสตร์ที่สร้างสรรค์สรรพสิ่งที่อเมสซิ่งซะจริงๆ In fact our whole life is one continuous chemistry. ถ้าจะว่าไปแล้วอ่ะนะ ชีวิตเราก็ถือว่าเป็นเคมีอยู่ตลอดเวลา These most stunning and amazing chemical reactions which we can see thereal magic! ปฏิกิริยาเคมีสุดทึ่งเหล่านี้ เราจะเห็นเป็นประจักษ์ได้เลยยว่า ...มันสุดยอดจริงๆ
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557
chemical
Chemistry - amazing science and it creates a truly amazing things. เคมี..ศาสตร์ที่น่าทึ่ง ซึ่งมันเป็นศาสตร์ที่สร้างสรรค์สรรพสิ่งที่อเมสซิ่งซะจริงๆ In fact our whole life is one continuous chemistry. ถ้าจะว่าไปแล้วอ่ะนะ ชีวิตเราก็ถือว่าเป็นเคมีอยู่ตลอดเวลา These most stunning and amazing chemical reactions which we can see thereal magic! ปฏิกิริยาเคมีสุดทึ่งเหล่านี้ เราจะเห็นเป็นประจักษ์ได้เลยยว่า ...มันสุดยอดจริงๆ
如何写汉字:วิธีเขียนตัวอักษรจีน
如何写汉字:วิธีเขียนตัวอักษรจีน  
วิธีการเขียนตัวอักษรจีน
ผู้ที่เริ่มศึกษาภาษาจีนใหม่ ๆ อาจจะเคยได้ยินกันจนหนาหูว่า "ภาษาจีนเขียนยาก จำยาก" อยากจะขอบอกว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด และไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งจำลำดับขีดอะไรกันให้มากมาย เพียงแค่หมั่นฝึกเขียน และเขียนตามลำดับขีดที่อาจารย์ให้คัดส่งเป็นการบ้านเป็นประจำทุกวัน ความเคยชินจากลำดับขีดจะซึมสู่ท่านเองโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ พึงจำไว้ว่า ครั้งแรกที่เริ่มฝึกเขียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนตามลำดับขีดให้ถูก ต้อง อย่าเขียนแบบว่าขอให้ใกล้เคียงเป็นพอ เพราะหากท่านเขียนลำดับขีดผิด โครงสร้างตัวอักษรที่ผิด ๆ เหล่านั้น นอกจากจะทำให้อักษรจีนของท่านไม่สวยงามแล้ว ยังอาจทำให้ความหมายของตัวอักษรคลาดเคลื่อนได้
ก่อนอื่นเรามาเริ่มรู้จักเส้นขีดของอักษรจีน (笔画 bǐ huà ปี่ฮว่า ) ว่าแต่ละเส้นมีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่เริ่มเรียน ขอย้ำน่ะค่ะว่าไม่ต้องถึงขนาดจำชื่อของแต่ละเส้นได้ แต่เขียนและลากให้ถูกเป็นพอค่ะ
笔画
เส้นขีดของอักษรจีน
    
笔顺 การลำดับขีดการเขียนตัวอักษรจีน
ณ ที่นี้จะข้อกล่าวถึงลำดับขีดพื้นฐานโดยทั่วไปมี 7 แบบ (ซึ่งในความเป็นจริงมีมากกว่า 7 แบบ บางตำรากล่าวถึง 13 แบบ )
1. บนลงล่าง

2. ขีดขวางแล้วค่อยขีดตั้ง

3. ตรงกลางก่อนแล้วซ้ายขวา

4.ตีกรอบนอก เขียนข้างในแล้วค่อยปิด
 

5. ป้ายซ้ายก่อนแล้วค่อยป้ายขวา
 
     
6.、ซ้ายก่อนแล้วค่อยขวา
7、ด้านนอกก่อนค่อยด้านใน
汉字结构 โครงสร้างอักษรจีน
โครงสร้างของตัวอักษรจีน เป็นสิ่งทีจำเป็นที่จะต้องรู้และจำ เพราะนอกจากจะทำให้เขียนตัวอักษรจีนได้ถูกต้องแล้วยังมีความสำคัญในการมี ส่วนช่วยในการเปิดพจนานุกรมอีกด้วย โครงสร้างอักษรจีน สามารถแบ่งได้ 14 รูปแบบ ดังนี้
1. โครงสร้างซ้ายขวา เช่น 挣、伟、休、妲
2. โครงสร้างบนล่าง เช่น 志、苗、字、胃
3. โครงสร้างซ้ายกลางขวา เช่น 彬、湖、棚、椭
4. โครงสร้างบนกลางล่าง เช่น 奚、髻、禀、亵
5. โครงสร้างขวา คลุมครึ่งบนเช่น 句、可、司、式
6. โครงสร้างซ้าย คลุมครึ่งบน เช่น 庙、病、房、尼
7. โครงสร้าง ซ้าย คลุมครึ่งล่าง เช่น 建、连、毯、尴
8. โครงสร้าง ขวา คลุมครึ่งล่าง เช่น 斗
9. โครงสร้างครอบบน เช่น 同、问、闹、周
10.โครงสร้างครอบล่าง เช่น 击、凶、函、画
11. โครงสร้างครอบข้างซ้าย เช่น 区、巨、匝、匣
12. โครงสร้างกรอบครอบ เช่น 囚、团、因、囹
13. โครงสร้างเดี่ยว เช่น 丈、甲、且、我
14. โครงสร้างพิเศษ เช่น 坐、爽、夹、噩
ทั้งนี้ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น การฝึกเขียน คัดศัพท์ภาษาจีนจะทำให้สามารถจำขั้นตอนการเขียนได้โดยอัตโนมัติ เพียงแต่ครั้งแรกของการเริ่มคัดตัวอักษรจีน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดให้ถูกต้องตามหลักภาษาจีน ขอบอกค่ะว่าไม่ยากอย่างที่คิด
 
http://www.confucianism.com.cn
ผู้ที่เริ่มศึกษาภาษาจีนใหม่ ๆ อาจจะเคยได้ยินกันจนหนาหูว่า "ภาษาจีนเขียนยาก จำยาก" อยากจะขอบอกว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด และไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งจำลำดับขีดอะไรกันให้มากมาย เพียงแค่หมั่นฝึกเขียน และเขียนตามลำดับขีดที่อาจารย์ให้คัดส่งเป็นการบ้านเป็นประจำทุกวัน ความเคยชินจากลำดับขีดจะซึมสู่ท่านเองโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ พึงจำไว้ว่า ครั้งแรกที่เริ่มฝึกเขียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนตามลำดับขีดให้ถูก ต้อง อย่าเขียนแบบว่าขอให้ใกล้เคียงเป็นพอ เพราะหากท่านเขียนลำดับขีดผิด โครงสร้างตัวอักษรที่ผิด ๆ เหล่านั้น นอกจากจะทำให้อักษรจีนของท่านไม่สวยงามแล้ว ยังอาจทำให้ความหมายของตัวอักษรคลาดเคลื่อนได้
ก่อนอื่นเรามาเริ่มรู้จักเส้นขีดของอักษรจีน (笔画 bǐ huà ปี่ฮว่า ) ว่าแต่ละเส้นมีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่เริ่มเรียน ขอย้ำน่ะค่ะว่าไม่ต้องถึงขนาดจำชื่อของแต่ละเส้นได้ แต่เขียนและลากให้ถูกเป็นพอค่ะ
笔画
เส้นขีดของอักษรจีน
| 
笔画 
เส้นขีด | 
名     称 | 
例  字 | 
笔画 
เส้นขีด | 
名     称 | 
例  字 
ตัวอย่างอักษร | |
| 
丶 | 
点 | 
广 | 
乛 | 
横    钩 | 
写 | |
| 
一 | 
横 | 
王 | 
 | 
横折 钩 | 
月 | |
| 
丨 | 
竖 | 
巾 | 
横折 弯钩 | 
九 | ||
| 
丿 | 
撇 | 
白 | 
横撇 弯钩 | 
那 | ||
| 
捺 | 
八 | 
ㄋ | 
横折 折折钩 | 
奶 | ||
| 
提 | 
打 | 
竖折 折钩 | 
与 | |||
| 
ㄑ | 
撇  点 | 
巡 | 
竖    弯 | 
四 | ||
| 
し | 
竖  提 | 
农 | 
横折 弯 | 
沿 | ||
| 
横折 提 | 
论 | 
┐ | 
横    折 | 
口 | ||
| 
亅 | 
弯  钩 | 
承 | 
∟ | 
竖    折 | 
山 | |
| 
亅 | 
竖  钩 | 
小 | 
ㄥ | 
撇    折 | 
云 | |
| 
乚 | 
竖弯 钩 | 
屯 | 
横    撇 | 
水 | ||
| 
斜  钩 | 
浅 | 
横折 折撇 | 
建 | |||
| 
卧  钩 | 
心 | 
竖折 撇 | 
专 | 
笔顺 การลำดับขีดการเขียนตัวอักษรจีน
ณ ที่นี้จะข้อกล่าวถึงลำดับขีดพื้นฐานโดยทั่วไปมี 7 แบบ (ซึ่งในความเป็นจริงมีมากกว่า 7 แบบ บางตำรากล่าวถึง 13 แบบ )
1. บนลงล่าง
2. ขีดขวางแล้วค่อยขีดตั้ง
3. ตรงกลางก่อนแล้วซ้ายขวา
4.ตีกรอบนอก เขียนข้างในแล้วค่อยปิด
5. ป้ายซ้ายก่อนแล้วค่อยป้ายขวา
6.、ซ้ายก่อนแล้วค่อยขวา
7、ด้านนอกก่อนค่อยด้านใน
汉字结构 โครงสร้างอักษรจีน
โครงสร้างของตัวอักษรจีน เป็นสิ่งทีจำเป็นที่จะต้องรู้และจำ เพราะนอกจากจะทำให้เขียนตัวอักษรจีนได้ถูกต้องแล้วยังมีความสำคัญในการมี ส่วนช่วยในการเปิดพจนานุกรมอีกด้วย โครงสร้างอักษรจีน สามารถแบ่งได้ 14 รูปแบบ ดังนี้
1. โครงสร้างซ้ายขวา เช่น 挣、伟、休、妲
2. โครงสร้างบนล่าง เช่น 志、苗、字、胃
3. โครงสร้างซ้ายกลางขวา เช่น 彬、湖、棚、椭
4. โครงสร้างบนกลางล่าง เช่น 奚、髻、禀、亵
5. โครงสร้างขวา คลุมครึ่งบนเช่น 句、可、司、式
6. โครงสร้างซ้าย คลุมครึ่งบน เช่น 庙、病、房、尼
7. โครงสร้าง ซ้าย คลุมครึ่งล่าง เช่น 建、连、毯、尴
8. โครงสร้าง ขวา คลุมครึ่งล่าง เช่น 斗
9. โครงสร้างครอบบน เช่น 同、问、闹、周
10.โครงสร้างครอบล่าง เช่น 击、凶、函、画
11. โครงสร้างครอบข้างซ้าย เช่น 区、巨、匝、匣
12. โครงสร้างกรอบครอบ เช่น 囚、团、因、囹
13. โครงสร้างเดี่ยว เช่น 丈、甲、且、我
14. โครงสร้างพิเศษ เช่น 坐、爽、夹、噩
ทั้งนี้ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น การฝึกเขียน คัดศัพท์ภาษาจีนจะทำให้สามารถจำขั้นตอนการเขียนได้โดยอัตโนมัติ เพียงแต่ครั้งแรกของการเริ่มคัดตัวอักษรจีน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดให้ถูกต้องตามหลักภาษาจีน ขอบอกค่ะว่าไม่ยากอย่างที่คิด
http://www.confucianism.com.cn
汉语拼音:PINYIN
汉语拼音:PINYIN  
声母 shēngmŭ เซิงหมู่ พยัญชนะ
1. พยัญชนะต้นของภาษาจีนมี 21 เสียง
b (ปัว / ปอ) p (พัว / พอ) m (มัว / มอ) f (ฟัว / ฟอ)
d (เตอ) t (เธอ) n (เนอ) l (เลอ)
g (เกอ) k (เคอ) h (เฮอ) j (จี)
q (ชี) x (ซี) z (จือ) c (ชือ)
s (ซือ) zh (จรือ) ch (ชรือ) sh (ซรือ) r (ยรือ)
หมายเหตุ zh ch sh r ให้ออกเสียงโดยยกปลายลิ้นขึ้นแตะบริเวณเพดานปาก ในการสะกดเสียงอ่านแบบไทยนั้น ผู้เขียนได้เลือกอักษร “ ร ” เป็นตัวแทนการออกเสียงยกลิ้นขึ้น มิได้หมายถึงให้สะกดเป็น จะ-รือ ชะ-รือ ซะ – รือ ยะ-รือ แต่ให้ออกเสียงควบกัน
2. พยัญชนะต้นกึ่งสระมี 2 เสียง คือ
y (i อี) และ w (u อู)
韵母 yùnmǔ อวิ้นหมู่ สระ แบ่งออกเป็นสระเดี่ยว และสระผสม ดังนี้
1. 单韵母 dān yùnmǔ ตาน อวิ้นหมู่ สระเดี่ยว มี 6 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี)
** สระ ü จะออกเสียงสระ u (อู) ควบกับ สระ i (อี) ( u + i ) โดยจุดสองจุดที่อยู่ด้านบน u เท่ากับสระ i นั่นเอง
หมายเหตุ บางตำรากล่าวถึงสระเดี่ยวไว้ว่ามี 8 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี) ê (เอ) er (เออร)
2. 双韵母 shāung yùnmǔ ซวง อวิ้นหมู่ สระผสม สังเกตได้ว่าการออกเสียงสระผสม จะเกิดจากเทคนิคการลากเสียงของสระแต่ละเสียงมาชนกัน
แบบฝึกหัด 2.1
a (อา) + o (โอ) = ao (อาว) i (อี) + u (อู) = iu (อิว) e (เออ) + i (อี) = ei (เอย)
a (อา) + i (อี) = ai (ไอย) u (อู) + i (อี) = ui (อุย) o (โอ) + u (อู) = ou(โอว)
u (อู) + o (โอ)= uo (อัว) u (อู) + a (อา)= ua (อวา) เป็นต้น
หากสระ e (เออ) ตามท้ายสระตัวอื่นจะออกเสียงเป็นสระ ê (เอ)
แบบฝึกหัด 2.2
i (อี) + e (เอ) = ie (เอีย) ü (อวี) + e (เอ) = üe (เอวีย)
กรณีที่มีเสียงพยัญชนะท้าย คือ - n หรือ - ng ตามหลังเสียงสระ เสียง - n จะเทียบได้กับเสียง “แม่กน” ในภาษาไทย และ - ng จะเทียบได้กับเสียง “แม่กง” ในภาษาไทย ส่วนเสียง - r ด้านท้ายนั้นกำกับไว้เพื่อแสดงว่าเป็นเสียงที่จำเป็นต้องม้วนหดลิ้นให้ยก ขึ้นไปแตะบริเวณเพดานแข็๋ง
แบบฝึกหัด 2.3
a (อา) --- an (อาน) a (อา) --- ang (อาง) o (โอ) --- ong (อง) e (เออ) --- en (เอิน)
e (เออ) --- eng (เอิง) ia (เอียะ) --- ian (เอียน) i (อี) --- in (อิน) ia (เอียะ) --- iang (เอียง)
i (อี) --- ing (อิง) i (อี) --- iong ( อี+อง) ua (อวา) --- uan (อวาน)
ua (อวา) --- uang (อวาง) u (อู) --- un (อูน) ü (อวี) --- ün (อวิน)
üa (เอวียะ) --- üan (เอวียน) e (เออ) --- er (เออ-ร)
ในบรรดาสระเดี่ยว 6 เสียง จะมีอยู่ 2 เสียง คือ เสียงสระ i (อี) และ u (อู) ที่ไม่สามารถใช้เป็นสระขึ้นต้นพยางค์ตามลำพังได้ จึงจำเป็นที่จะต้องมีพยัญชนะกึ่งสระ y (อี) และ w (อู) มาช่วยกำกับแทนที่สระ i (อี) และ u (อู)
แบบฝึกหัด 2.4
i (อี) --- yi (อี) ia (เอียะ) --- ya(เอียะ) iao (เอียว) --- yao (เอียว)
ie (อีเย) --- ye (เอีย) iou (อิว)--- you (อิว) ian (เอียน) --- yan (เอียน)
in (อิน) --- yin (อิน) iang (เอียง) --- yang(เอียง) ing (อิง) --- ying(อิง)
iong ( อี+อง) --- yong( อี+อง) u (อู) --- wu (อู) ua (อวา) --- wa (อวา)
uo (อัว) --- wo(อัว) uai (อวาย) --- wai (อวาย) uei (เอวย) -- wei (เอวย)
uan (อวาน) --- wan(อวาน) uen (อู+เอิน) -- wen (อู+เอิน) uang (อวาง) -- wang (อวาง)
ueng (อู+เอิง) -- weng (อู+เอิง)
韵母分组 การแบ่งกลุ่มของสระผสม
    
                                                                
    
    
    
    
汉语拼音 hànyŭ pīnyīn ฮั่นอวี่ พินอิน 
สัทอักษรภาษาจีน (พินอิน ) 
              
 
เนื่องจากตัวอักษรจีนเป็นตัวอักษรที่มาจากภาพวาดและวิวัฒนาการเรื่อยมาจน
เป็นตัวอักษรจีนในปัจจุบัน โดยแต่ละขีด 
แต่ละเส้นของตัวอักษรจีนไม่สามารถนำมาผสมกันแล้วออกเสียงเป็นภาษาจีนได้ 
ด้วยเหตุนี้เองเราจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ระบบการออกเสียงสัทอักษรภาษา
จีน (พินอิน拼音) ซึ่งได้ดัดแปลงมาจาก International Phonetic Alphabets 
เพื่อช่วยในการอ่านออกเสียงตัวอักษรจีนนั้น ๆ หากเทียบกับภาษาไทยแล้ว 
ระบบสัทอักษรจีนหรือพินอินนั้นมิได้ยากอย่างที่คิดเลย ภาษาไทยเรามีพยัญชนะ 
สระ วรรณยุกต์ สัทอักษรจีนก็มีเช่นกัน声母 shēngmŭ เซิงหมู่ พยัญชนะ
1. พยัญชนะต้นของภาษาจีนมี 21 เสียง
b (ปัว / ปอ) p (พัว / พอ) m (มัว / มอ) f (ฟัว / ฟอ)
d (เตอ) t (เธอ) n (เนอ) l (เลอ)
g (เกอ) k (เคอ) h (เฮอ) j (จี)
q (ชี) x (ซี) z (จือ) c (ชือ)
s (ซือ) zh (จรือ) ch (ชรือ) sh (ซรือ) r (ยรือ)
หมายเหตุ zh ch sh r ให้ออกเสียงโดยยกปลายลิ้นขึ้นแตะบริเวณเพดานปาก ในการสะกดเสียงอ่านแบบไทยนั้น ผู้เขียนได้เลือกอักษร “ ร ” เป็นตัวแทนการออกเสียงยกลิ้นขึ้น มิได้หมายถึงให้สะกดเป็น จะ-รือ ชะ-รือ ซะ – รือ ยะ-รือ แต่ให้ออกเสียงควบกัน
2. พยัญชนะต้นกึ่งสระมี 2 เสียง คือ
y (i อี) และ w (u อู)
韵母 yùnmǔ อวิ้นหมู่ สระ แบ่งออกเป็นสระเดี่ยว และสระผสม ดังนี้
1. 单韵母 dān yùnmǔ ตาน อวิ้นหมู่ สระเดี่ยว มี 6 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี)
** สระ ü จะออกเสียงสระ u (อู) ควบกับ สระ i (อี) ( u + i ) โดยจุดสองจุดที่อยู่ด้านบน u เท่ากับสระ i นั่นเอง
หมายเหตุ บางตำรากล่าวถึงสระเดี่ยวไว้ว่ามี 8 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี) ê (เอ) er (เออร)
2. 双韵母 shāung yùnmǔ ซวง อวิ้นหมู่ สระผสม สังเกตได้ว่าการออกเสียงสระผสม จะเกิดจากเทคนิคการลากเสียงของสระแต่ละเสียงมาชนกัน
แบบฝึกหัด 2.1
a (อา) + o (โอ) = ao (อาว) i (อี) + u (อู) = iu (อิว) e (เออ) + i (อี) = ei (เอย)
a (อา) + i (อี) = ai (ไอย) u (อู) + i (อี) = ui (อุย) o (โอ) + u (อู) = ou(โอว)
u (อู) + o (โอ)= uo (อัว) u (อู) + a (อา)= ua (อวา) เป็นต้น
หากสระ e (เออ) ตามท้ายสระตัวอื่นจะออกเสียงเป็นสระ ê (เอ)
แบบฝึกหัด 2.2
i (อี) + e (เอ) = ie (เอีย) ü (อวี) + e (เอ) = üe (เอวีย)
กรณีที่มีเสียงพยัญชนะท้าย คือ - n หรือ - ng ตามหลังเสียงสระ เสียง - n จะเทียบได้กับเสียง “แม่กน” ในภาษาไทย และ - ng จะเทียบได้กับเสียง “แม่กง” ในภาษาไทย ส่วนเสียง - r ด้านท้ายนั้นกำกับไว้เพื่อแสดงว่าเป็นเสียงที่จำเป็นต้องม้วนหดลิ้นให้ยก ขึ้นไปแตะบริเวณเพดานแข็๋ง
แบบฝึกหัด 2.3
a (อา) --- an (อาน) a (อา) --- ang (อาง) o (โอ) --- ong (อง) e (เออ) --- en (เอิน)
e (เออ) --- eng (เอิง) ia (เอียะ) --- ian (เอียน) i (อี) --- in (อิน) ia (เอียะ) --- iang (เอียง)
i (อี) --- ing (อิง) i (อี) --- iong ( อี+อง) ua (อวา) --- uan (อวาน)
ua (อวา) --- uang (อวาง) u (อู) --- un (อูน) ü (อวี) --- ün (อวิน)
üa (เอวียะ) --- üan (เอวียน) e (เออ) --- er (เออ-ร)
ในบรรดาสระเดี่ยว 6 เสียง จะมีอยู่ 2 เสียง คือ เสียงสระ i (อี) และ u (อู) ที่ไม่สามารถใช้เป็นสระขึ้นต้นพยางค์ตามลำพังได้ จึงจำเป็นที่จะต้องมีพยัญชนะกึ่งสระ y (อี) และ w (อู) มาช่วยกำกับแทนที่สระ i (อี) และ u (อู)
แบบฝึกหัด 2.4
i (อี) --- yi (อี) ia (เอียะ) --- ya(เอียะ) iao (เอียว) --- yao (เอียว)
ie (อีเย) --- ye (เอีย) iou (อิว)--- you (อิว) ian (เอียน) --- yan (เอียน)
in (อิน) --- yin (อิน) iang (เอียง) --- yang(เอียง) ing (อิง) --- ying(อิง)
iong ( อี+อง) --- yong( อี+อง) u (อู) --- wu (อู) ua (อวา) --- wa (อวา)
uo (อัว) --- wo(อัว) uai (อวาย) --- wai (อวาย) uei (เอวย) -- wei (เอวย)
uan (อวาน) --- wan(อวาน) uen (อู+เอิน) -- wen (อู+เอิน) uang (อวาง) -- wang (อวาง)
ueng (อู+เอิง) -- weng (อู+เอิง)
韵母分组 การแบ่งกลุ่มของสระผสม
สระผสม มีทั้งสิ้น 30 เสียง โดยแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
| 
1 | 
2 | 
3 | 
4 | ||
| 
a 
อา | 
o 
โอ | 
e 
เออ | 
i 
อี | 
u 
อู | 
ü 
อวี | 
-   กลุ่มที่ 1 นำหน้าด้วยสระเสียงเดี่ยว     a (อา)   o (โอ)   e (เออ)   ได้แก่    
a (อา)        o (โอ)          e (เออ)     ê (เอ)    - i (อือ)   
er (เออ-ร)    ai (อาย)      ei (เอย)      ao (อาว)    
ou (โอว)     an (อาน)     en (เอิน)     ang (อาง / อัง)     
eng (เอิง)   ong (อง)
*ในกรณีที่สระ i (อี)อยู่ในกลุ่ม 1 ซึ่งใช้กับเสียงพยัญชนะ z c s zh ch sh r  ให้ออกเสียงเป็นสระอือ
 zi (จือ)               ci (ชือ)               si (ซือ)
zhi (จรือ)           chi (ชรือ)           shi (ซรือ)                  ri (ยรือ)
| 
声母 | 
1 | ||||||||||||||
| 
a 
อา | 
o 
โอ | 
e 
เออ | 
ê 
เอ | 
- i 
อือ | 
er | 
ai 
อาย | 
ei 
เอย | 
ao 
อาว | 
ou 
โอว | 
an 
อาน | 
en 
เอิน | 
ang 
อัง | 
eng 
เอิง | 
ong 
อง | |
| 
b 
โป | 
ba 
ปา | 
bo 
โป | 
bai 
ปาย | 
bei 
เปย | 
bao 
ปาว | 
ban 
ปาน | 
ben 
เปิน | 
bang 
ปัง | 
beng 
เปิง | ||||||
| 
p 
โพ | 
pa 
พา | 
po 
โพ | 
pai 
พาย | 
pei 
เพย | 
pao 
พาว | 
pou 
โพว | 
pan 
พาน | 
pen 
เพิน | 
pang 
พัง | 
peng 
เพิง | |||||
| 
m 
โม | 
ma 
มา | 
mo 
โม | 
me 
เมอ | 
mai 
มาย | 
mei 
เมย | 
mao 
มาว | 
mou 
โมว | 
man 
มาน | 
men 
เมิน | 
mang 
มัง | 
meng 
เมิง | ||||
| 
f 
โฟ | 
fa 
ฟา | 
fo 
โฟ | 
fei 
เฟย | 
fou 
โฟว | 
fan 
ฟาน | 
fen 
เฟิน | 
fang 
ฟัง | 
feng 
เฟิง | |||||||
| 
d 
เตอ | 
da 
ตา | 
de 
เตอ | 
dai 
ตาย | 
dei 
เตย | 
dao 
ตาว | 
dou 
โตว | 
dan 
ตาน | 
den 
เติน | 
dang 
ตัง | 
deng 
เติง | 
dong 
ตง | ||||
| 
t 
เทอ | 
ta 
ทา | 
te 
เทอ | 
tai 
ทาย | 
tao 
ทาว | 
tou 
โทว | 
tan 
ทาน | 
tang 
ทัง | 
teng 
เทิง | 
tong 
ธง | ||||||
| 
n 
เนอ | 
na 
นา | 
ne 
เนอ | 
nai 
นาย | 
nei 
เนย | 
nao 
นาว | 
nou 
โนว | 
nan 
นาน | 
nen 
เนิน | 
nang 
นัง | 
neng 
เนิง | 
nong 
นง | ||||
| 
l 
เลอ | 
la 
ลา | 
le 
เลอ | 
lai 
ลาย | 
lei 
เลย | 
lao 
ลาว | 
lou 
โลว | 
lan 
ลาน | 
lang 
ลัง | 
leng 
เริง | 
long 
ลง | |||||
| 
g 
เกอ | 
ga 
กา | 
ge 
เกอ | 
gai 
กาย | 
gei 
เกย | 
gao 
กาว | 
gou 
โกว | 
gan 
กาน | 
gen 
เกิน | 
gang 
กัง | 
geng 
เกิง | 
gong 
กง | ||||
| 
k 
เคอ | 
ka 
คา | 
ke 
เคอ | 
kai 
คาย | 
kei 
เคย | 
kao 
คาว | 
kou 
โคว | 
kan 
คาน | 
ken 
เคิน | 
kang 
คัง | 
keng 
เคิง | 
kong 
คง | ||||
| 
H 
เฮอ | 
ha 
ฮา | 
He 
เฮอ | 
hai 
ฮาย | 
hei 
เฮย | 
hao 
ฮาว | 
hou 
โฮว | 
han 
ฮัน | 
hen 
เฮิน | 
hang 
ฮัง | 
heng 
เฮิง | 
hong 
ฮง | ||||
| 
j 
จี | |||||||||||||||
| 
q 
ชี | |||||||||||||||
| 
x 
ซี | |||||||||||||||
| 
z 
จือ | 
za 
จา | 
ze 
เจอ | 
zi 
จือ | 
zai 
จาย | 
zei 
เจย | 
zao 
จาว | 
zou 
โจว | 
zan 
จัน | 
zen 
เจิน | 
zang 
จาง | 
zeng 
เจิง | 
zong 
จง | |||
| 
c 
ชือ | 
ca 
ชา | 
ce 
เชอ | 
ci 
ชือ | 
cai 
ชาย | 
cao 
ชาว | 
cou 
โชว | 
can 
ชัน | 
cen 
เชิน | 
cang 
ชาง | 
ceng 
เชิง | 
cong 
ชง | ||||
| 
s 
ซือ | 
sa 
ซา | 
se 
เซอ | 
si 
ซือ | 
sai 
ซาย | 
sao 
ซาว | 
sou 
โซว | 
san 
ซัน | 
sen 
เซิน | 
sang 
ซาง | 
seng 
เซิง | 
song 
ซง | ||||
| 
zh 
จือ | 
zha 
จา | 
zhe 
เจอ | 
zhi 
จือ | 
zhai 
จาย | 
zhei 
เจย | 
zhao 
จาว | 
zhou 
โจว | 
zhan 
จัน | 
zhen 
เจิน | 
zhang 
จาง | 
zheng 
เจิง | 
zhong 
จง | |||
| 
ch 
ชือ | 
cha 
ชา | 
che 
เชอ | 
chi 
ชือ | 
chai 
ชาย | 
chao 
ชาว | 
chou 
โชว | 
chan 
ชัน | 
chen 
เชิน | 
chang 
ชาง | 
cheng 
เชิง | 
chong 
ชง | ||||
| 
sh 
ซือ | 
sha 
ซา | 
she 
เซอ | 
shi 
ซือ | 
shai 
ซาย | 
shei 
เซย | 
shao 
ซาว | 
shou 
โซว | 
shan 
ซัน | 
shen 
เซิน | 
shang 
ซาง | 
sheng 
เซิง | ||||
| 
r | 
re 
เยอ | 
ri 
ยือ | 
rao 
ยาว | 
rou 
โยว | 
ran 
ยาน | 
ren 
เยิน | 
rang 
ยาง | 
reng 
เยิง | 
rong 
ยง | ||||||
กลุ่มที่ 2 นำหน้าด้วยสระ i (อี) ได้แก่
i (อี)            ia (เอียะ)          iao (เอียว)                       ie (เอีย)                iou (อิว) 
ian (เอียน)  in (อิน)            iang (เอียง)      ing (อิง)               iong (อี+อง)
| 
声母 | 
2 | |||||||||
| 
i 
อี | 
ia 
เอียะ | 
iao 
เอียว | 
ie 
เอีย | 
iou 
อิว | 
ian 
เอียน | 
in 
อิน | 
iang 
เอียง | 
ing 
อิง | 
iong 
อี+อง | |
| 
b 
โป | 
bi 
ปี | 
biao 
เปียว | 
bie 
เปีย | 
bian 
เปียน | 
bin 
ปิน | 
bing 
ปิง | ||||
| 
p 
โพ | 
pi 
พี | 
piao 
เพียว | 
pie 
เพีย | 
pian 
เพียน | 
pin 
พิน | 
ping 
พิง | ||||
| 
m 
โม | 
mi 
มี | 
miao 
เมียว | 
mie 
เมีย | 
miu 
มิว | 
mian 
เมียน | 
min 
มิน | 
ming 
มิง | |||
| 
f 
โฟ | ||||||||||
| 
d 
เตอ | 
di 
ตี | 
diao 
เตียว | 
die 
เตีย | 
diu 
ติว | 
dian 
เตียน | 
ding 
ติง | ||||
| 
t 
เทอ | 
ti 
ที | 
tiao 
เทียว | 
tie 
เทีย | 
tian 
เทียน | 
ting 
ทิง | |||||
| 
n 
เนอ | 
ni 
นี | 
niao 
เนียว | 
nie 
เนีย | 
niu 
นิว | 
nian 
เนียน | 
nin 
นิน | 
niang 
เนียง | 
ning 
นิง | ||
| 
l 
เลอ | 
li 
ลี | 
lia 
เลียะ | 
l iao 
เลียว | 
lie 
เลีย | 
liu 
ลิว | 
lian 
เลียน | 
lin 
ลิน | 
liang 
เลียง | 
ling 
ลิง | |
| 
g 
เกอ | ||||||||||
| 
k 
เคอ | ||||||||||
| 
H 
เฮอ | ||||||||||
| 
j 
จี | 
ji 
จี | 
jia 
เจียะ | 
jiao 
เจียว | 
jie 
เจีย | 
jiu 
จิว | 
jian 
เจียน | 
jin 
จิน | 
jiang 
เจียง | 
jing 
จิง | 
jiong 
โจวง | 
| 
q 
ชี | 
qi 
ชี | 
qia 
เชียะ | 
qiao 
เชียว | 
qie 
เชีย | 
qiu 
ชิว | 
qian 
เชียน | 
qin 
ชิน | 
qiang 
เชียง | 
qing 
ชิง | 
qiong 
โชวง | 
| 
x 
ซี | 
xi 
ซี | 
xia 
เซียะ | 
xiao 
เซียว | 
xie 
เซีย | 
xiu 
ซิว | 
xian 
เซียน | 
xin 
ซิน | 
xiang 
เซียง | 
xing 
ซิง | 
xiong 
โซวง | 
| 
z จือ | ||||||||||
| 
c ชือ | ||||||||||
| 
s ซือ | ||||||||||
| 
zhจือ | ||||||||||
| 
chชือ | ||||||||||
| 
shซือ | ||||||||||
| 
r ยือ | ||||||||||
| 
yi 
อี | 
ya 
เอียะ | 
yao 
เอียว | 
ye 
เอ | 
you 
อิว | 
yan 
เอียน | 
yin 
อิน | 
yang 
เอียง | 
ying 
อิง | 
yong 
อี+อง | |
 กลุ่มที่ 3 นำหน้าด้วยสระ u ได้แก่
u (อู)            ua (อวา)             uo (อัว)          uai (อวาย)        uei  (อู+เอย) 
uan (อวาน)   un  (อุน)            uang (อวาง)  ueng (อู+เอิง)
| 
声母 | 
3 | ||||||||
| 
u 
อู | 
ua 
อวา | 
uo 
อัว | 
uai 
อวาย | 
uei 
อุย | 
uan 
อวาน | 
un 
อุน | 
uang 
อวาง | 
ueng 
อู+เอิง | |
| 
b 
โป | 
bu 
ปู | ||||||||
| 
p 
โพ | 
pu 
พู | ||||||||
| 
m 
โม | 
mu 
มู | ||||||||
| 
f 
โฟ | 
fu 
ฟู | ||||||||
| 
d 
เตอ | 
du 
ตู | 
duo 
ตัว | 
dui 
ตุย | 
duan 
ตวาน | 
dun 
ตุน | ||||
| 
t 
เทอ | 
tu 
ทู | 
tuo 
ทัว | 
tui 
ทุย | 
tuan 
ทวาน | 
tun 
ทุน | ||||
| 
n 
เนอ | 
nu 
นู | 
nuo 
นัว | 
nuan 
นวน | ||||||
| 
l 
เลอ | 
lu 
ลู | 
luo 
ลัว | 
luan 
ลวน | 
lun 
ลุน | |||||
| 
g 
เกอ | 
gu 
กู | 
gua 
กวา | 
zuo 
กัว | 
guai 
กวาย | 
gui 
กุย | 
guan 
กวาน | 
gun 
กุน | 
guang 
กวาง | |
| 
k 
เคอ | 
ku 
คู | 
kua 
ควา | 
kuo 
คัว | 
kuai 
ควาย | 
kui 
คุย | 
kuan 
ควาน | 
kun 
คุน | 
kuang 
ควาง | |
| 
H 
เฮอ | 
hu 
ฮู | 
hua 
ฮวา | 
huo 
ฮัว | 
huai 
ฮวาย | 
hui 
ฮุย | 
huan 
ฮวาน | 
hun 
ฮุน | 
huang 
ฮวาง | |
| 
j 
จี | |||||||||
| 
q 
ชี | |||||||||
| 
x 
ซี | |||||||||
| 
z 
จือ | 
zu 
จู | 
zuo 
จัว | 
zui 
จุย | 
zuan 
จวาน | 
zun 
จุน | ||||
| 
c 
ชือ | 
cu 
ชู | 
cuo 
ชัว | 
cui 
ชุย | 
cuan 
ชวาน | 
cun 
ชุน | ||||
| 
s 
ซือ | 
su 
ซู | 
suo 
ซัว | 
sui 
ซุย | 
suan 
ซวน | 
sun 
ซุน | ||||
| 
zh 
จือ | 
zhu 
จู | 
zhua 
จวา | 
zhuo 
จัว | 
zhuai 
จวาย | 
zhui 
จุย | 
zhuan 
จวาน | 
zhun 
จุน | 
zhuang 
จวง | |
| 
ch 
ชือ | 
chu 
ชู | 
chua 
ชวา | 
chuo 
ชัว | 
chuai 
ชวาย | 
chui 
ชุย | 
chuan 
ชวาน | 
chun 
ชุน | 
chuang 
ชวง | |
| 
sh 
ซือ | 
shu 
ซู | 
shua 
ซวา | 
shuo 
ซัว | 
shuai 
ซวาย | 
Shui 
ซุย | 
shuan 
ซวาน | 
shun 
ซุน | 
shuang 
ซวง | |
| 
r 
ยือ | 
ru 
ยู | 
rua 
ยวา | 
ruo 
ยัว | 
rui 
ยุย | 
ruan 
ยวาน | 
run 
ยุน | |||
| 
wu 
อู | 
wa 
อวา | 
wo 
อัว | 
wai 
อวาย | 
wei 
อู+เอย    / เวย | 
wan 
อวาน | 
wen 
อู+เอินเวิน | 
wang 
อวาง | 
weng 
อู+เอิง / เวิง | |
กลุ่มที่ 4 กลุ่มสุดท้ายนำหน้าด้วยสระ ü (อวี) ได้แก่
      ü (อวี)            üe (เอวีย)          üan  (เอวียน)            ün (อวิน)
| 
声母 | 
4 | |||
| 
ü 
อวี | 
üe 
อวี+เอ (เอวีย) | 
üan 
อวี+อัน(เอวียน) | 
ün 
อวิน | |
| 
b  โป | ||||
| 
p โพ | ||||
| 
mโม | ||||
| 
f  โฟ | ||||
| 
d  เตอ | ||||
| 
t  เทอ | ||||
| 
n 
เนอ | 
nü 
นวี | 
nüe 
นวี+เอ (เนวีย) | ||
| 
l 
เลอ | 
lü 
ลวี | 
lüe 
ลวี+เอ (เลวีย) | ||
| 
g เกอ | ||||
| 
k เคอ | ||||
| 
h เฮอ | ||||
| 
j 
จี | 
ju 
จวี | 
jue 
จวี+เอ (เจวีย) | 
juan 
จวี+อัน(เจวียน) | 
jun 
จวิน | 
| 
q 
ชี | 
qu 
ชวี | 
que 
ชวี+เอ (เชวีย) | 
quan 
ชวี+อัน (เชวียน) | 
qun 
ชวิน | 
| 
x 
ซี | 
xu 
ซวี | 
xue 
ซวี+เอ(เซวีย) | 
xuan 
ซวี+อัน(เซวียน) | 
xun 
ซวิน | 
| 
z  จือ | ||||
| 
c   ชือ | ||||
| 
s  ซือ | ||||
| 
zh จือ | ||||
| 
ch ชือ | ||||
| 
sh ซือ | ||||
| 
r  ยือ | ||||
| 
yu 
อวี | 
yue 
อวี+เอ(เอวีย) | 
yuan 
อวี+อัน(เอวียน) | 
yun 
อวิน | |
 ** ข้อสังเกต พยัญชนะ  j (จี)  q (ชี)   x (ซี)  y (อี) หากผสมกับสระ ü (อวี)จะละเครื่องหมายจุดจุดข้างบนเอาไว้ อย่างที่บอกไว้ข้างต้น สระ ü (อวี) มีรากฐานมาจากสระ u (อู) + i (อี)หากสังเกตการออกเสียงพยัญชนะ j (จี)  q (ชี)   x (ซี)  y (อี) ให้ดี ๆ จะเห็นว่ามีเสียงสระ i (อี) ประกอบอยู่ด้วย ดังนั้นจึงถือว่าหากนำพยัญชนะ j (จี)  q (ชี)   x (ซี)  y (อี) มาผสมกับสระ ü (อวี) ไม่จำเป็นต้องเติมจุดบนสระ ü
      ทบทวนฟังเสียงพินอินจากเจ้าของภาษา คลิ๊กนี้เลยค่ะ 
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
